สจ.โต้งปราจีน

“ภรรยา เผย สจ.โต้งปราจีน ตัวเปล่าเข้าบ้านสุนทร เชื่อใจคิดว่าเป็นบ้านพ่อ ข้องใจ ได้ยินเสียงปืนไม่ออกมาดู”

การเสียชีวิตของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือที่รู้จักกันในนาม สจ.โต้ง ภายใต้บ้านของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่สะเทือนทั้งวงการการเมืองและชาวบ้านในพื้นที่ เรื่องราวซับซ้อนนี้ไม่ได้เป็นเพียงการยิงกันทั่วไป แต่เกี่ยวพันถึงศึกสายเลือดและความขัดแย้งทางการเมืองที่ถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง

ความเชื่อใจที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม

นางสาวณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง เปิดเผยถึงมุมมองของเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า สามีของเธอเดินทางไปบ้านนายสุนทรตัวเปล่าโดยไม่มีอาวุธใดๆ ด้วยความเชื่อใจว่าสถานที่นั้นเสมือนบ้านพ่อ
  “พี่โต้งเป็นคนระวังตัวมาก แต่แกคิดว่าที่ที่แกไปเหมือนบ้านพ่อ เลยไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้” สจ.จอยกล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เธอข้องใจคือ เมื่อเกิดเหตุยิงกันแล้ว ทำไมไม่มีใครออกมาดู ทั้งๆ ที่เสียงปืนดังชัดเจน

ความเคลื่อนไหวในแวดวงการเมือง

บ้านใหญ่ “วิลาวัลย์” ที่เป็นตระกูลสำคัญในปราจีนบุรี ยังคงอยู่ในศูนย์กลางความสนใจของคนในพื้นที่ จากการที่นายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้ทรงอิทธิพลในการเมืองท้องถิ่นปราจีนฯ มานานกว่า 40 ปี ได้ประกาศวางมือ ทิศทางอนาคตของบ้านใหญ่วิลาวัลย์ยังคงเป็นคำถามสำคัญ
สำหรับ สจ.โต้ง แม้จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในปัจจุบัน แต่เขาเคยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงสำคัญให้กับ สจ.จอย ในฐานะผู้แทน อบจ.ปราจีนฯ และเคยมีบทบาทอย่างมากในค่ายมวย “สจ.โต้งปราจีน”

การตั้งข้อสงสัยและกระแสข่าว

เหตุการณ์ครั้งนี้ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นธรรมในคดี ภรรยาของ สจ.โต้งกล่าวว่า เธอเป็นห่วงกระบวนการสอบสวน เนื่องจากคู่กรณีเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพล “เราเป็นแค่ผู้หญิงกับเด็ก ขอให้ส่วนกลางดูแลคดีนี้”
เธอยังเปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อจากคู่กรณี ขณะที่เธอและลูกทั้งสองคนกำลังอยู่ในสภาพที่ต้องการความปลอดภัย

บทสรุป

การเสียชีวิตของ สจ.โต้ง ไม่เพียงแต่ทำให้ครอบครัวของเขาโศกเศร้า แต่ยังจุดประเด็นให้คนในพื้นที่ตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและการทำงานของเจ้าหน้าที่ นี่ไม่ใช่แค่คดีความอาญา แต่เป็นเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงไปถึงความขัดแย้งทางการเมืองที่ร้อนแรงในปราจีนบุรี
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการหาความจริงและสร้างความยุติธรรมให้กับผู้สูญเสีย ทั้งในแง่ของกฎหมายและความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่